Sunday, May 9, 2010

การจัดฟัน (Orthodontic treatment)

การจัดฟัน (Orthodontic treatment) เป็นการเคลี่อนฟัน ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้าน ความสวยงามและการทำหน้าที่ โดยอาศัยเครื่องมือบางชนิด
ซึ่งมีทั้งแบบถอดได้และแบบที่ยึดติดอยู่กับตัวฟันแบบ ที่อยู่ในช่องปาก และแบบที่อยู่นอกช่องปากแบบที่มีสีจากโลหะและ แบบที่มีสีเดียวกับฟันธรรมชาติ



เมื่อไหร่จึงเริ่มจัดได้

การจัดฟันสามารถกระทำได้ทั้งใน เด็กที่ฟันแท้ยังขึ้นไม่ครบและในผู้ใหญ่ที่ฟันแท้ขึ้นครบทุกซี่แล้ว ทั้งนี้อาจจะมีจุดมุ่งหมายและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไปบ้าง
การจัดฟันในเด็กอาจจะมีผลทำให้รูปหน้าและรูปร่าง ของกระดูกขากรรไกรเปลี่ยนแปลงไปได้
ในขณะที่ในผู้ใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะการเรียงตัว ของฟันเท่านั้น
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของใบหน้าได้มากนักและมี ข้อจำกัดต่างๆมากกว่าในเด็ก
ในบางครั้งการจัดฟันเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถแก้ไขการสบฟันและรูปร่างใบหน้า
ให้สมบูรณ์ได้ จึงต้องมีการถอนฟันออกไปบางซี่ หรือในรายที่มีความผิดปกติรุนแรง
อาจจะต้องทำการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดกระดูกขากรรไกร (Orthognathic surgery)

ระยะเวลาที่ต้องใช้

ระยะเวลาในการจัดฟันนั้นจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละ ราย เนื่องจากมีตัวแปรต่างๆมากมาย
อาทิเช่น อายุของผู้ป่วย สภาพกระดูกขากรรไกรของผู้ป่วย ความร่วมมือของผู้ป่วยในการรักษา ฯลฯ

ความสำเร็จในการจัดฟัน

จะต้องอาศัยความร่วมมืออย่างสูงจากผู้ป่วยตั้งแต่การมา ให้ตรงเวลานัดโดยทั่วไป
จะต้องมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 3-4 สัปดาห์เพื่อทำการปรับเครื่องมือ
การรักษาความสะอาดในช่องปาก
การใส่เครื่องมือบางชนิดในช่องปากด้วยตัวเองจนถึงการ ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว ถ้าปราศจากการร่วมมือที่ดีจากผู้ป่วยแล้ว การจัดฟันอาจจะใช้เวลานานกว่าปกติและไม่ประสบผลสำเร็จ หรือผลที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ

ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อรับการจัดฟัน

1.แปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร และรักษาความสะอาดฟันและช่องปากให้ดี
2.ปฏิบัติตัวตามที่ทันตแพทย์สั่งโดยเคร่งครัด เช่น การใส่ยาง การใส่ retainer การมาตามนัดที่กำหนด
3. งดอาหารบางประเภท

- อาหารที่แข็งมาก เช่น อ้อย น้ำแข็ง
- อาหารเหนียว เช่น หมากฝรั่ง ตังเม เนื้อที่เหนียวมากๆ
- อาหารหวานจัด เช่น ลูกอม ช็อคโกแลต